เมื่อ : 15 ก.ย. 2566 , 235 Views

สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์คว้ารางวัลสุดยอดหน่วยงานภาครัฐ “สำเภา-นาวาทอง” ประจำปี 2566

 

กรุงเทพฯ : วันที่ 13 กันยายน 2566 นายณรัฐ รุจิรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รับรางวัลสุดยอดหน่วยงานภาครัฐ “สำเภา-นาวาทอง” ประจำปี 2566 ด้านการอำนวยความสะดวกภาคธุรกิจ ที่ได้ปรับปรุงกระบวนงานและการให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ เปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นดิจิทัล ประเภทหน่วยงาน “ระดับกรม” 

 

โดยได้รับเกียรติจาก ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการ มูลนิธิชัยพัฒนา เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล พร้อมด้วย นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และนายสุรงค์ บูลกุล รองประธานกรรมการ และประธานคณะทำงานจัดงานฯ ณ หอประชุม มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

การประกาศรางวัลสุดยอดหน่วยงานรัฐ หรือรางวัล "สำเภา-นาวาทอง" เป็นรางวัลที่หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มอบให้กับหน่วยงานภาครัฐ 

 

โดยตระหนักถึงความทุ่มเทในการทำงานของหน่วยงานภาครัฐ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ภาคธุรกิจได้รับบริการที่รวดเร็ว และช่วยลดอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ ส่งเสริมศักยภาพเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยใช้เกณฑ์และมาตรฐานในการประเมินตัดสินจากภาคธุรกิจ ซึ่งจะสะท้อนมุมมองจากผู้ใช้บริการอย่างแท้จริง 

 

 

นายณรัฐ รุจิรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ กล่าวว่า “สถาบันรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ภาคธุรกิจและหอการค้าไทย เห็นถึงความมุ่งมั่นของสถาบันในการพัฒนากระบวนงานและการให้บริการให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องครบทั้ง 4 มิติ ได้แก่ มิติที่ 1 ด้านประสิทธิภาพการให้บริการ ยกระดับการบริการสู่ Digital Technology Platform มิติที่ 2 ด้านการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ มิติที่ 3 ด้านการรับรู้ และ มิติที่ 4 ด้านความร่วมมือและมีส่วนร่วมของภาคธุรกิจ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกและสนับสนุนภาคธุรกิจ 

 

ในปีที่ผ่านมา สถาบันได้เสริมศักยภาพงานตรวจรับรองสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ทั้งกระบวนการให้เป็นระบบดิจิทัล ได้พัฒนา Digital Collaborative Platform ระยะที่ 1 สำหรับอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ตลอดจนได้พัฒนาซอฟต์แวร์ในการบริหารจัดการงานตรวจสอบรับรองของสถาบันทั้งระบบ ครอบคลุมงานทดสอบและรับรองผลิตภัณฑ์ งานสอบเทียบเครื่องมือวัด งานตรวจโรงงาน ที่ผู้รับบริการสามารถติดตามสถานะของงานได้ตลอดเวลา 

 

นอกจากนี้ สถาบันได้จัดทำแผนปฏิบัติการดิจิทัลเพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางในการพัฒนาระบบเทคโนโลยีดิจิทัลสนับสนุนภาคธุรกิจให้สอดรับกับนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาในระดับประเทศ” 

 

“ในการพัฒนายกระดับการให้บริการ สถาบันได้ขยายขอบข่ายการให้บริการตรวจสอบรับรองครอบคลุมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า มีความพร้อมในการให้บริการทดสอบสถานีอัดประจุไฟฟ้าทั้งแบบในห้องปฏิบัติการและในสถานที่ติดตั้ง การทดสอบรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรทั้งด้านความปลอดภัย ด้านความเข้ากันได้ทางแม่เหล็กไฟฟ้า (EMC) และการทดสอบชิ้นส่วนประกอบ เช่น มาตรวัดความเร็ว แบตเตอรี่ ไฟส่องสว่างและแสงสัญญาณ รองรับการจดทะเบียนผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ผลิตและผู้นำเข้า 

 

ขณะเดียวกัน สถาบันได้สนับสนุนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการปรับปรุงกระบวนงานของภาคธุรกิจด้วย เช่น ส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี IoT พัฒนาระบบ Smart Energy เพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิต ติดตามและจัดการการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ  แนวทางการสร้าง Green Productivity นี้จะส่งผลให้ภาคธุรกิจมีการพัฒนาการผลิตอย่างสมดุล สามารถแข่งขันและขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศได้อย่างยั่งยืนต่อไป” ผู้อำนวยการสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ กล่าวทิ้งท้าย 

 

 

สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (สฟอ.) เป็นสถาบันเครือข่ายของกระทรวงอุตสาหกรรม การดำเนินงานประกอบด้วยศูนย์ข้อมูลอุตสาหกรรมเชิงลึก ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรม และศูนย์บริการเพื่ออุตสาหกรรมและผู้ประกอบการ มีพันธกิจในการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม 

 

สนใจศึกษารายระเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.thaieei.com หรือโทรศัพท์ 02 280 7272